พิชัย เผย ก.ม.ทรัพย์อิงสิทธิชง ครม.แล้ว เชื่อไม่ว่ารัฐบาลไหนก็จะนำมาใช้ต่อ

2025-09-04 HaiPress

พิชัย เผยการจัดทำกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ ได้ยื่นเสนอ ครม. แล้ว มองว่าเป็นกฎหมายที่ดี เชื่อไม่ว่ารัฐบาลไหนมาก็จะนำมาใช้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่ารัฐบาลได้เดินหน้าจัดทำกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ โดยให้สิทธิต่างชาติในการใช้ประโยชน์ที่ดินระยะยาวถึง 99 ปี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งขณะนี้ได้เสนอคณะรัฐมนตรี ไปแล้ว ส่วนหากมีกรณียุบสภา หรือมีการเปลี่ยนรัฐบาลนั้น เชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาลใดจะมาบริหารประเทศ หากเห็นประโยชน์ในกฎหมายดังกล่าว ก็จะนำมาใช้

รัฐบาลมีแนวคิดในการบริหารจัดการที่ดิน เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ การแยกบทบาทระหว่างความเป็นเจ้าของที่ดิน และสิทธิในการใช้ประโยชน์จากที่ดินออกจากกันอย่างชัดเจน 

สำหรับแนวคิดนี้แตกต่างจากสัญญาเช่าในอดีตที่มีระยะเวลาสั้น หรือ 30 ปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อการลงทุนบางประเภทที่อาจต้องการระยะเวลาถึง 100 หรือ 200 ปี ทั้งนี้ มองว่าการให้สิทธิ 99 ปี จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการใช้ที่ดินอย่างมาก ผู้ได้รับสิทธิจะสามารถนำไปหาแหล่งสินเชื่อได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของที่ดิน สามารถทำสัญญาเช่าช่วง หรือพัฒนาร่วมกันได้ และเมื่อครบกำหนด 99 ปี ที่ดินนั้นก็จะกลับคืนสู่เจ้าของเดิม

ขณะเดียวกัน กรณีที่ดินของภาคเอกชนที่ต้องการให้สิทธิการใช้ 99 ปี จะมีกระบวนการพิเศษ โดยผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องไปดำเนินการที่กรมที่ดินพร้อมกัน เพื่อโอนที่ดินนั้นให้เป็นของรัฐบาลในวันเดียวกัน จากนั้น รัฐบาลก็จะโอนสิทธิในการใช้ 99 ปี กลับคืนให้แก่ผู้ใช้ในรูปแบบของ “โฉนดสีเขียว” ซึ่งเป็นหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดิน เมื่อครบ 99 ปี ที่ดินก็จะกลับคืนสู่รัฐ จะเป็นการเพิ่มที่ดินในความดูแลของรัฐ และในอนาคต รัฐจะสามารถนำที่ดินเหล่านี้มาใช้ในการวางผังเมืองใหม่ได้

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบัน นักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของที่ดินได้ง่ายดายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การขอใบอนุญาตจากบีโอไอ หรือนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้น การให้สิทธิในการใช้ประโยชน์จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด รัฐบาลมีเป้าหมายสูงสุดคือ การทำให้ที่ดิน ซึ่งถูกมองว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมา เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจสูงสุด

“เราหวังว่า การดำเนินการนี้จะช่วยให้ประเทศสามารถใช้ทรัพยากรที่ดินที่มีอยู่กว่า 330 ล้านไร่ ให้เกิดคุณค่าสูงสุด ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นภาระที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์”

นายพิชัย กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ยื่นยุบสภา ว่า หากมีการยุบสภา แต่ตนก็จะยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ทราบเหตุการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังปฏิบัติ รมว.คลัง อยู่

“ปัจจุบัน ยังไม่ได้มีการใช้คำว่ารักษาการ และตนยังคงทำงานภายใต้รัฐมนตรีอยู่ แต่หากมีการยุบสภา ก็ยังปฏิบัติหน้าที่รักษาการ เพื่อประเทศ”

ส่วนหากเป็นรัฐบาลรักษาการภายหลังการยุบสภา การเจรจาหรือตกลงใดๆ ที่จะผูกพันรัฐบาลชุดหน้าจะไม่สามารถทำได้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ในการเจรจาต่างๆ นั้น ยังไม่ได้เป็นการผูกพันโดยตรง เพราะจะต้องนำเสนอต่อ ครม. และสภาในหลายประเด็นอยู่แล้ว จึงยังคงต้องทำงานเพื่อหาข้อยุติ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังไม่มีการยุบสภา ยังสามารถดำเนินงานในสิ่งที่จำเป็นต้องทำต่อไปได้ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น การเจรจาภาษีสหรัฐ แต่สิ่งที่ไม่เร่งด่วนและเป็นเรื่องระดับนโยบายก็อาจต้องรอ

ขณะที่ข้อกังวลประเด็นการเมืองที่อาจส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะงักนั้น มองว่าเรื่องนี้เป็นธรรมชาติของทุกประเทศ และในประเทศไทย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งทุกคนรับรู้ และท้ายที่สุดก็สามารถลงตัวได้ ทำให้ความเชื่อมั่นยังไม่น่ามีปัญหา แม้บางกิจกรรมอาจต้องรอผลบ้างเล็กน้อย และตนจะพยายามผลักดันให้จีดีพีเติบโตได้ 2.5%

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 เครือข่ายข้อมูลเชียงใหม่ครบวงจร      ติดต่อเรา   SiteMap