จากกระแสโซเชียลวิดีโอสั้นระดับโลกของ TikTok สู่เทคโนโลยีล้ำสมัยของ DeepSeek ที่ดึงดูดความสนใจจากทั้งวงการ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของจีนได้เริ่มเป็นที่จับตามองบนเวทีโลกด้วยนวัตกรรมอันยอดเยี่ยมและศักยภาพในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง

ไม่นานมานี้ Meitu หนึ่งในแอปพลิเคชันแต่งภาพและวิดีโอชั้นนำจากประเทศจีน ผู้บุกเบิกนวัตกรรมการตกแต่งภาพด้วย AI ได้สร้างกระแสความนิยมอย่างถล่มทลายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลสาธารณะ Meitu ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากฟีเจอร์เด่น “AI แฟลช” ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ แอปพลิเคชันสามารถขึ้นครองอันดับหนึ่งบนชาร์ต App Store รวมของกัมพูชา ลาวและบรูไน อีกทั้งยังคว้าอันดับหนึ่งในหมวดถ่ายภาพและวิดีโอใน 11 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ ลาว เมียนมา กัมพูชา และในยุโรปอย่างอิตาลี รัสเซีย และตุรกี

หลากฟีเจอร์ตอบโจทย์ของผู้ใช้งานทุกอุตสาหกรรมในจีนและอาเซียน

ขณะเดินทางถ่ายภาพในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณหวังหลาน สมาชิกสมาคมช่างภาพแห่งประเทศจีนและช่างภาพสตรีทมืออาชีพ ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกใช้โทรศัพท์มือถือเป็น “อุปกรณ์ถ่ายภาพสำรอง” ว่า ปัจจุบันสมรรถนะด้านการถ่ายภาพของโทรศัพท์มือถือพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ซอฟต์แวร์ด้านภาพถ่ายอย่าง Meitu ก็มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่มีฟีเจอร์ปรับแต่งภาพอัจฉริยะ และระบบ Live Beauty แบบคลิกเดียว แต่ยังสร้างระบบการสร้างสรรค์ที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้การถ่ายภาพสตรีทมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในมุมมองของคุณหวังหลาน ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ Meitu เปิดตัวออกมา ช่วยแก้ไข “ปัญหา” ที่ผู้ใช้มักพบเจอระหว่างการถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ฟังก์ชัน AI แฟลช ซึ่งสามารถช่วยแก้ไจปัญหาหน้าโอเวอร์แสงหรือฉากหลังมืดทึบจากแฟลชมือถือแบบเดิมได้อย่างชัดเจน “ด้วยการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีในภาพถ่ายผ่านฟีเจอร์นี้ ภาพที่ได้จะแตกต่างจากแอปแต่งภาพทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านการชดเชยแสงและการรักษารายละเอียดในภาพ” สำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจแล้ว นี่คือความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ได้อย่างไร้ที่ติ

คุณ Kuri Lu โฮสต์ของ Airbnb และผู้ประกอบการโฮมสเตย์ที่ย้ายจากปักกิ่ง ประเทศจีน มาพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทยนานกว่า 7 ปี เดิมทีเธอเคยทำงานด้านการถ่ายภาพบุคคลเชิงพาณิชย์ในประเทศจีน และหลังจากผันตัวมาทำธุรกิจโฮมสเตย์ เธอก็มักพาลูกค้าจากงานถ่ายภาพในอดีต รวมถึงแขกผู้หญิงจากโฮมสเตย์ ออกไปถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ

เมื่อได้ลองใช้ฟังก์ชัน AI แฟลช ของแอป Meitu เป็นครั้งแรก คุณ Kuri Lu ถึงกับกล่าวชมว่า “ผลลัพธ์สวยเกินคาด” เธอมองว่าผลลัพธ์ที่ได้จากฟีเจอร์นี้เหนือกว่างานรีทัชแบบเดิมๆ ที่เธอเคยใช้ในงานถ่ายภาพเชิงพาณิชย์บางส่วนเสียอีก ภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนบางภาพมีมู้ดและโทนที่ชวนให้นึกถึงหนังของหว่องกาไว — เต็มไปด้วยอารมณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว

คุณ Kuri Lu กล่าวด้วยความประทับใจว่า “ไม่ว่าเวลาจะดึกแค่ไหน กรุงเทพฯ ก็ยังคงสว่างไสวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแสงอบอุ่นจากแผงลอยริมทาง หรือแสงไฟวูบวาบจากรถยนต์ที่เคลื่อนไหวล้วนชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาบันทึกช่วงเวลาเหล่านั้น แต่การถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนนั้นไม่ง่ายเลย บางครั้งแสงไม่พอ หรือฉากหลังก็ซับซ้อนเกินไป ฉันถ่ายภาพชุดหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ในภาพต้นฉบับ ตัวแบบแทบจะจมหายไปในเงามืดทั้งหมด แต่พอกลับมาที่โรงแรม ฉันเพียงแค่แตะใช้ฟังก์ชัน AI แฟลช ของ Meitu แค่คลิกเดียว ภาพพอร์ตเทรตก็สว่างชัดขึ้นมาทันที ในขณะที่ฉากหลังยังคงเต็มไปด้วยแสงนีออนหลากสีที่งดงาม บรรยากาศยามค่ำคืนไม่ได้ถูกทำลายเลยแม้แต่น้อย”

สำหรับคุณ Kuri Lu แล้ว ฟังก์ชัน AI แฟลช ของ Meitu เปรียบเสมือนโอกาสในการ “รีทัชภาพระดับมืออาชีพ” ได้ฟรีทันทีหลังจากถ่ายภาพเสร็จ แม้จะไม่มีอุปกรณ์ไฟส่องสว่างแบบมืออาชีพ ก็สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนที่ทั้งสวยงาม มีเสน่ห์ และเต็มไปด้วยบรรยากาศได้อย่างง่ายดาย “นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Meitu ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย” เธอกล่าว

ที่น่าสนใจก็คือ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยหรือในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น Meitu
ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่ทำให้แบรนด์ “ปัง” อย่างต่อเนื่องในกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ และดึงดูดความสนใจและความชื่นชมจากผู้ใช้จำนวนมาก

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา Meitu ได้เปิดตัวแคมเปญครีเอทีฟ “Mei Go Live” เป็นครั้งแรกที่เทศกาลละครอาน่าหยา (Aranya Theater Festival) ในเมืองฉินหวงเต่า มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน ในฐานะเครื่องมือสร้างสรรค์ภาพพอร์ตเทรตด้วย AI ระดับโลกที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากเทศกาลละครอาน่าหยา Meitu ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานบันทึกช่วงเวลาอันน่าประทับใจภายในงานเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในประสบการณ์ทางวัฒนธรรมแห่งละครอย่างลึกซึ้ง ผ่านการสร้างสรรค์ภาพด้วยเทคโนโลยี AI อันล้ำสมัย

จากข้อมูลที่ได้รับ เทศกาลละครอาน่าหยา (Aranya Theater Festival) ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลละครที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศจีน ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาเทศกาลนี้ได้จัดการแสดงละครไปแล้วเกือบ 500 เรื่อง และดึงดูดผู้เข้าร่วมชมมากกว่า 300,000 คน

ในช่วงเทศกาลละคร Meitu ได้นำเสนอเอฟเฟกต์ “AI จินตนาการเหนือจริง” ที่กำลังเป็น กระแส พร้อมด้วยฟีเจอร์สุดสร้างสรรค์อีก 7 รูปแบบ เช่น สูตรแต่งภาพเฉพาะช่วงเทศกาล ลุคแต่งหน้า และเทมเพลตโพลารอยด์ ฯลฯ เป็นต้น ผู้ใช้งานสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งละครได้ง่าย ๆ เพียงคลิกเดียว เพื่อบันทึกและแบ่งปันช่วงเวลาประทับใจจากเทศกาลละครได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

คุณอู๋ เมิ่ง ผู้จัดการโมเดลลิ่งชาวจีนมากประสบการณ์ ได้พาโมเดลชาวต่างชาติหลายคนเยี่ยมชมงานเทศกาลละครอาน่าหยา และให้ความสนใจอย่างมากกับฟีเจอร์ใหม่ของ Meitu เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ฟีเจอร์เหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ทำงานในวงการโมเดล “งานโมเดลมีจังหวะการทำงานที่รวดเร็ว Meitu ใช้งานง่าย สามารถปรับแสงและสีได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ได้ภาพคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น และประหยัดเวลาได้มาก” เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การออกแบบของแอปมีความพิถีพิถัน ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์การแต่งหน้าที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความงามและการแสดงตัวตนของโมเดลได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะฟีเจอร์ “AI แฟลช” ที่สามารถปรับแสงในขั้นตอนหลังการถ่ายได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างและนุ่มนวลยิ่งขึ้น เพิ่มเสน่ห์ให้กับภาพถ่าย และช่วยให้โมเดลเป็นที่สนใจทั้งในแวดวงอาชีพและบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

ศิลปะเรียลลิสม์แห่งภาพถ่าย กับความงามแบบตะวันออก

ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ฟีเจอร์ “AI แฟลช” ซึ่งได้รับการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้งานนั้นเพิ่งเปิดตัวได้เพียงกว่า 1 เดือนเท่านั้น โดยในการอัปเดตครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์แก้ไขภาพในสภาวะแสงน้อย และเพิ่มบรรยากาศแฟลชแบบวินเทจ เพื่อช่วยกู้รายละเอียดในส่วนมืดของภาพ 

ย้อนกลับไปในการอัปเดตช่วงเดือนเมษายน Meitu เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ปรับภาพ Live อัตโนมัติในคลิกเดียว การอัปเดตอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ได้รับการมองจากผู้ใช้งานว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความใส่ใจและความตั้งใจอย่างแท้จริงของแบรนด์

ตามข้อมูลจากวิศวกรของ Meitu ฟีเจอร์ “AI แฟลช” ได้รับการพัฒนาบนโมเดลที่ผ่านการเรียนรู้จากตัวอย่างภาพถ่ายด้วยแฟลชจริงจำนวนมหาศาล ทำให้ระบบสามารถจับลักษณะของแสงได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง โมเดลนี้มีจุดเด่นสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ ความสมจริงระดับสูง ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่าเอฟเฟกต์แสงที่จำลองขึ้นมีความใกล้เคียงกับแฟลชจริงในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นความเข้มของแสง สีสัน ขอบเขตของแสง หรือมุมของการส่องสว่าง ล้วนมีความแม่นยำสูงและให้ภาพถ่ายที่ดูเป็นธรรมชาติ และการควบคุมที่ยืดหยุ่นผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเอฟเฟกต์แฟลชเสมือนได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระดับแสง สีรายละเอียด การปรับแสงให้สมดุล รวมถึงมิติของแสงและเงา เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลากหลายยิ่งขึ้น

หลังจากเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “AI แฟลช” ได้ไม่นาน ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งานในประเทศไทย บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของไทย เหล่าบล็อกเกอร์จำนวนมากต่างพากันโพสต์วิดีโอสั้นเปรียบเทียบเอฟเฟกต์ “AI แฟลช และริมทะเล” โดยเนื้อหาส่วนใหญ่แสดงภาพเซลฟี่ในสภาพแสงน้อยที่ได้รับการปรับแต่งด้วยฟีเจอร์นี้ ส่งผลให้ผิวดูเนียนใส และใบหน้าดูมีมิติชัดเจนมากยิ่งขึ้น จนถึงปัจจุบัน วิดีโอในลักษณะนี้มียอดรับชมรวมทะลุกว่า 1 ล้านครั้ง พร้อมกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานหลายหมื่นรายในรูปแบบคอมเมนต์และแชร์

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมจากจีนได้วิเคราะห์ว่า บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมระดับโลกอย่าง TikTok และ Instagram มีอินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากรวมถึงครีเอเตอร์ด้านความงามและไลฟ์สไตล์ ออกมาเผยแพร่วิดีโอเปรียบเทียบก่อน–หลังใช้งานฟีเจอร์ “AI แฟลช” ของ Meitu ซึ่งวิดีโอเหล่านี้มีความแตกต่างทางภาพอย่างชัดเจน และให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจในเชิงภาพเคลื่อนไหว สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก

ในจำนวนนี้ มีอินฟลูเอนเซอร์บน Instagram รายหนึ่งที่เผยแพร่วิดีโอประชาสัมพันธ์ฟีเจอร์
“AI แฟลช” ของ Meitu ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมียอดวิวถึง 8 ล้านครั้ง และได้รับการกดถูกใจถึง 344,000 ครั้ง ในส่วนของคอมเมนต์วิดีโอดังกล่าว มีผู้ใช้หลายรายตั้งคำถามว่า “ทำไมฉันถึงหา (ฟีเจอร์) แฟลชไม่เจอ” ซึ่งคอมเมนต์นี้เองก็ได้รับการกดถูกใจจากผู้ใช้งานหลายพันคน แสดงให้เห็นถึงความสนใจและความสงสัยเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้อย่างชัดเจน

Meitu ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือภูมิหลังทางวัฒนธรรมความงามที่เข้มแข็งในพื้นที่นี้ จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ประธานสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางแห่งประเทศไทยเคยประเมินไว้ว่า ตลาดความงามในประเทศไทยในปี 2567 จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 3.4 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งอัตราการเติบโตนี้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า ด้วยขนาดตลาดความงามที่มหาศาล และกลุ่มผู้ใช้งานวัยรุ่นที่กระตือรือร้นในการทดลองสิ่งใหม่ ๆ จึงทำให้ซอฟต์แวร์ดิจิทัลด้านความงามของจีนอย่าง Meitu ที่มาพร้อมฟีเจอร์ “AI แฟลช” และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สามารถก้าวสู่ความนิยมในตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้